Review: The Life Ahead (Edoardo Ponti, 2020)
ความหวังและชีวิต The Life Ahead ภาพยนตร์อิตาลีแนวดราม่า ดัดแปลงจากหนังสือวรรณกรรม หนังเล่าเรื่องราวหญิงวัยชราที่เคยประกอบอาชีพเป็นโสเภณี และเป็นหนึ่งในชาวยิวที่รอดชีวิตจากค่ายเอาท์วิช หนังเปิดเรื่องมาด้วยเด็กชายเด็กกำพร้า ผิวสีชื่อ โมโมะ หลังจากโดนจับได้ว่าขโมยของโมโมะ ถูกคุณหมอที่ดูแลพามาฝากกับ มาดามโรซ่า หญิงชราที่ทำหน้าที่ดูแลเด็ก ๆ ที่กำพร้าผู้ปกครอง หรือลูก ๆ ของหญิงขายบริการ หนังเล่าความสัมพันธ์และการเลี้ยงดูของมาดามโรซ่า ตัวหนังดำเนินเรื่องอย่างค่อย ๆ เป็นค่อยไปและพาให้เราไปซึมซับความทนทุกข์ในจิตใจของมาดามโรซ่า รวมถึงการก้าวผ่านพ้นวัยของโมโมะ
หนังมีความยาว 1 ชั่วโมง ครึ่ง บอกเล่าความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชรากับเด็กน้อยวัยกำลังโต โมโมะ ไม่เพียงแค่ได้เรียนรู้ชีวิตจากมาดามโรซ่า เขายังได้รับความเอ็นดูจากหมอ ชายขายบริการ ได้เจอเพื่อนร่วมชายคาเดียวกันที่มีความหวังว่าแม่ตัวเองจะมารับสักวัน ฝึกหากับเจ้าของร้านขายของชำ จนไปถึง พ่อค้าขายยา ความพิเศษของความสัมพันธ์ครั้งนี้คือการเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปข้างหนังตามชื่อเรื่อง
สิ่งที่เราชื่นชอบและชื่นชมคือท่าทีของหนังในการพาเราซึมซับความรู้สึกของตัวละคร หนังดำเนินเรื่องราวด้วยความเรียบง่าย จับต้องได้และมีชีวิตจิตใจ นักแสดงสวมบทบาทกันได้อย่างยอดเยี่ยม วิธีลำดับเหตุการณ์ร้อยเรียงบทสรุปได้อย่างมีมิติ วิธีเฉลยเหตุและผลของการกระทำต่าง ๆ ถูกบอกเล่าผ่านรายละเอียดได้อย่างแยบยล เพลงประกอบเพราะมาก
เหนือสิ่งอื่นใด ประเด็นผลกระทบจากภาวะสงคราม หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ จนไปถึงประเด็นของผู้อพยพ ในการกับเข้าสู่วงจรของสังคมและใช้ชีวิตอย่างปกติ โดยเฉพาะประเด็นของคนยิวในวัยชราที่ยังต้องดำเนินชีวิตและหนีความทนทุกข์ในจิตใจที่ตามหลอกหลอน ซึ่งเมื่อร่างกายร่วงโรยตามหวัง จิตใจที่เคยเข้มแข็งก็ทรุดตามสภาพ จิตใต้สำนึกของความหวาดกลัว ความหวาดระแวงจากครั้งเยาว์วัยก็กลับฟื้นตัวแข็งแรง
สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนในเรื่องคือพัฒนาการความสัมพันธ์ของตัวละครหลัก โมโมะและมาดามโรซ่า ทั้งสองคนค่อย ๆ เปิดใจยอมรับซึ่งกันและกันอย่างเข้าใจ การยอมรับกันและกันนั้นทำให้ทั้งคู่ห่วงใยกันและกัน เราชื่นชอบหลายฉากของภาพยนตร์เรื่องนี้มากในการประสานรอยเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดูขัดแย้งกันแต่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ดีงาม สวยงามมาก ทำให้บทสรุปของหนังน่าประทับใจ
ท้ายสุด The Life Ahead คือภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์ของผู้คนได้ดีงาม แม้ว่าพล็อตเรื่องจะค่อนข้างเก่า แต่คุณค่าหรือคุณงามความดีข้อความที่หนังเลือกหยิบมานำเสนอดีงามควรค่าแก่การชื่นชม ความสัมพันธ์ของผู้คนที่ไม่เหมือนกัน สังคมแวดล้อมที่แตกต่างกัน แต่ทั้งหมดสามารถอยู่ร่วมกันได้เพียงแค่เปิดใจยอมรับอีกฝ่าย สังคมรอบข้างจะช่วยบ่มเพาะตัวตนของเราไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านดีหรือด้านเลว ตัวละครโมโมะ จึงเป็นตัวแทนของเด็กที่กำลังเรียนรู้สังคมที่หลากหลายและต้องเลือกว่าจะเดินทางต่อไปในสังคมแบบไหน หรือสังคมไหนที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด แน่นอนว่า ตัวหนังมีคำตอบให้สำหรับคำถามนี้...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ :)
ตัวอย่าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น